เทศกาลเบียร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก!
Oktoberfest 2024 ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี
21 กันยายน - 6 ตุลาคม 2024
ประวัติศาสตร์อันยาวนาน
Oktoberfest เป็นเทศกาลเบียร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก จัดขึ้นทุกปีที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เทศกาลนี้เริ่มต้นเมื่อ 214 ปีที่แล้ว เพื่อฉลองการอภิเษกสมรสของเจ้าชายลุดวิก (Ludwig) และเจ้าหญิงเทเรเซ่ (Therese) ในวันที่ 12 ตุลาคม 1810 และกินเวลานานเกือบหนึ่งสัปดาห์จนถึงวันที่ 17 ตุลาคม โดยจบลงด้วยการแข่งม้าที่น่าตื่นเต้น หลังจากงานปาร์ตี้สุดอลังการนี้ คู่รักที่แสนสุขก็ตัดสินใจว่าควรจัดเทศกาลประเภทเดียวกันนี้ต่อไปในทุกๆ ปี
ในปี 1819 ผู้ปกครองเมืองมิวนิกเข้ามาดูแลการจัดเทศกาล มีการขยายระยะเวลา และขยับวันจัดเทศกาลไปจากช่วงที่เคยจัด เนื่องจาก ช่วงปลายเดือนกันยายน ในแคว้นบาวาเรียมักจะมีสภาพอากาศที่ดีมาก มีอุณหภูมิอบอุ่นกว่ากลางเดือนตุลาคม ในสัปดาห์แรกของ Oktoberfest อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 30°C ซึ่งกระตุ้นให้ผู้มาเยือนกระหายน้ำ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน สัปดาห์สุดท้ายของ Oktoberfest ยังคงเป็นเดือนตุลาคม ผู้เยี่ยมชมจึงสามารถสนุกสนานไปกับเบียร์ อาหาร กิจกรรมกลางแจ้ง และบริเวณต่างๆ ของงานที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นได้อย่างเต็มที่
ขบวนพาเหรดถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1835 เพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสของกษัตริย์ลุดวิจที่ 1 และเทเรซาแห่งบาวาเรีย นับตั้งแต่ปี 1850 เป็นต้นมา ขบวนพาเหรดนี้ได้กลายเป็นธรรมเนียมประจำปีและเป็นองค์ประกอบสำคัญของเทศกาล มีผู้คนกว่า 8,000 คนเข้าร่วมขบวนพาเหรดนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากแคว้นบาวาเรีย สวมชุดประจำชาติ และเดินจากถนน Maximilian ผ่านใจกลางเมืองมิวนิกไปยังสถานที่จัด Oktoberfest
ในปี 1887 ได้มีการจัดงาน Oktoberfest Staff and Breweries ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยงานนี้จะมีการแสดงม้าที่ประดับประดาอย่างงดงาม และมีการแสดงดนตรีสดในเต็นท์ของของโรงเบียร์ต่างๆ โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันเสาร์แรกของ Oktoberfest เสมอ และเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของ Oktoberfest
ในปี 1910 Oktoberfest ได้เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี โดยมีเบียร์ที่ถูกรินออกไปเพื่อเสิร์ฟมากถึง 120,000 ลิตร ในปี 1913 ได้มีการก่อตั้ง Bräurosl ซึ่งเป็นเต็นท์เบียร์ Oktoberfest ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยสามารถรองรับได้ประมาณ 12,000 คน (ปัจจุบันเต็นท์ที่ใหญ่ที่สุดคือ Hofbräu-Festhalle ซึ่งรองรับได้ 10,000 คน)
เฉพาะโรงเบียร์เหล่านี้ที่ตั้งอยู่ในมิวนิก จำนวน 6 โรงเท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตให้มีเต็นท์และเบียร์ Oktoberfest เป็นของตัวเองในงานนี้ ได้แก่
1. Augustiner
2. Hacker-Pschorr
3. Löwenbräu
4. Hofbräu
5. Spaten
6. Paulaner
และโรงเบียร์เหล่านี้ยังมักจัดงานที่โรงเบียร์ หรือในสวนของโรงเบียร์ของตนเองตลอดช่วง Oktoberfest อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีเต็นท์อื่นๆ ที่เน้นการแสดงดนตรี เต็นท์ที่มีธีมการตกแต่ง เต็นท์ที่นำเสนอเมนูอาหารพิเศษ เป็นต้น
"ปัจจุบัน เทศกาล Oktoberfest เป็นเทศกาลเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยยังคงเอกลักษณ์ของศตวรรษที่ 21 มีนักท่องเที่ยวกว่า 7 ล้านคนจากทั่วโลกเข้าร่วมเทศกาลนี้ในปีที่ผ่านมา"
เบียร์ Oktoberfest คืออะไร?
เบียร์ Oktoberfest แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เบียร์ Official Oktoberfest และเบียร์สไตล์ Oktoberfest
เบียร์ Official Oktoberfest คือ เบียร์ที่ผลิตขึ้นภายในเขตเมืองมิวนิก และเป็นไปตาม Purity Law มีเพียงโรงเบียร์ 6 แห่งในมิวนิกเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ และไม่มีโรงเบียร์แห่งอื่นที่ได้รับอนุญาตให้เสิร์ฟเบียร์ของตัวเองในงานนี้ อย่างไรก็ตาม เบียร์ Official Oktoberfest จะเป็นเบียร์สไตล์อะไรก็ได้ ดังนั้น จึงมีเบียร์มากมายหลายสไตล์ภายใต้ชื่อ "เบียร์ Official Oktoberfest"
เบียร์สไตล์ Oktoberfest เป็นเบียร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์และประเพณีของ Oktoberfest ในมิวนิก เบียร์สไตล์นี้จัดอยู่ในประเภท Bavarian Märzen ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากคำภาษาเยอรมันที่แปลว่า เดือนมีนาคม
ซึ่งในอดีตเป็นช่วงเวลาที่จะเก็บเบียร์ไว้ในถ้ำเพื่อให้เบียร์เกิดกระบวนการหมักในช่วงฤดูร้อน และพร้อมดื่มในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่การผลิตปกติต้องหยุดชะงักเนื่องจากไม่มีตู้เย็น หมายความว่าเบียร์จะพร้อมดื่มในช่วงปลายเดือนกันยายน โดยเบียร์จะมีสีเหลืออำพัน มีความเข้มข้นปานกลาง มีปริมาณแอลกอฮอล์ 6% มีกลิ่นมอลต์เด่นชัด ให้ความรู้สึกสดชื่น dry ทำให้เบียร์ชนิดนี้ดื่มง่าย และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเทศกาล Oktoberfest โดยเบียร์สไตล์ Oktoberfest นั้นมีการผลิตขึ้นทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐอเมริกาด้วย
เบียร์สไตล์ Oktoberfest มีส่วนที่เหมือนกันกับเบียร์ Official Oktoberfest คือ โรงเบียร์ใหญ่ทั้ง 6 แห่งในมิวนิก จะผลิตเบียร์เบียร์ Official Oktoberfest เป็นเบียร์สไตล์ Märzen หรือ Festbier ขึ้นมาเฉพาะสำหรับเทศกาลนี้ภายใต้ชื่อ Oktoberfestbier หรือ Oktoberfest Märzen หากคุณต้องการลิ้มรสเบียร์แท้ๆ ในเทศกาล Oktoberfest ที่มิวนิก เบียร์เหล่านี้คือสิ่งที่คุณห้ามพลาด!
นอกจากเบียร์แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
ที่จัดขึ้นเพื่อสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ดังนี้
1. การแสดงดนตรีสด - ดนตรีแบบดั้งเดิมของเยอรมนี เช่น ดนตรีบาวาเรียน ที่เล่นด้วยเครื่องดนตรีดั้งเดิม เช่น แตรและแอกคอร์เดียน เพื่อสร้างบรรยากาศที่สนุกสนาน
2. การเต้นรำ - มีการแสดงเต้นรำแบบพื้นเมือง และผู้เข้าร่วมงานจะสวมใส่ชุดบาวาเรียนแบบดั้งเดิม ที่เรียกว่า Lederhosen และ Dirndl มาร่วมงานด้วย
3. ขบวนพาเหรด - ขบวนพาเหรดใหญ่ในวันเปิดงาน โดยผู้เข้าร่วมจะแต่งกายแบบดั้งเดิม และเดินขบวนผ่านเมืองมิวนิก มีขบวนพาเหรดของโรงเบียร์ต่างๆ ในมิวนิก นำเสนอขบวนพาเหรดในธีมที่แตกต่างกัน สร้างสีสันให้กับเทศกาล
4. สวนสนุก - มีเครื่องเล่นจำนวนมาก เหมือนยกสวนสนุกมาไว้ในเทศกาลนี้ เช่น รถไฟเหาะ ชิงช้าสวรรค์ บิงโก โกคาร์ท และเกมส์สไตล์งานวัด เหมือนยกสวนสนุกมาไว้ในเทศกาลนี้เลยทีเดียว
5. อาหารและขนม - นอกจากเบียร์ ยังมีอาหารเยอรมันแบบดั้งเดิม เช่น ไส้กรอก (Bratwurst) ขาหมู (Schweinshaxe) และขนมปังเพรทเซล (Pretzel) เป็นต้น
"เรียกได้ว่า เทศกาลเบียร์ระดับโลกที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนี้ คือ งานวัดไทยในสไตล์เยอรมัน ในสเกลที่มีขนาดใหญ่กว่างานวัดไทยหลายเท่านั่นเอง งานนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาร่วมสนุก และสัมผัสวัฒนธรรมเยอรมันในบรรยากาศที่อบอุ่น และเต็มไปด้วยความสนุกสนาน"
มูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล
กรมแรงงานและกิจการเศรษฐกิจของเมืองมิวนิก (RAW) เป็นผู้จัดเทศกาลใหญ่ครั้งนี้ รายงานว่า ในปีที่ผ่านมา ตลอด 18 วันของเทศกาลนี้ มีผู้เข้าร่วมกว่า 7.2 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดในประวัติศาสตร์ ใช้จ่ายเงินเกือบ 442 ล้านยูโรสำหรับพื้นที่จัดงานเทศกาล (เฉลี่ยประมาณ 70 ยูโรต่อคน) สร้างงานหลายเกือบ 13,000 ตำแหน่งต่อปี สำหรับคนขับแท็กซี่ พนักงานโรงแรม พนักงานเสิร์ฟ พนักงานบาร์ ช่างภาพ คนงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เป็นต้น นี่เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ประมาณ 5,000 ยูโร ภายใน 18 วัน โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นค่าคอมมิชชั่นและทิป
เทศกาลนี้สร้างรายได้รวมประมาณ 1.25 พันล้านยูโรต่อปี คิดเป็น 2% ของ GDP ของเมืองมิวนิก มีการใช้จ่าย 505 ล้านยูโรสำหรับที่พัก รายได้เฉลี่ยจาก 17 เต็นท์ขนาดใหญ่ และ 21 เต็นท์ขนาดเล็ก คิดเป็นประมาณ 300 ล้านยูโร แม้ว่าราคาเบียร์จะทำลายสถิติ โดยราคาต่อลิตรอยู่ที่ 12.60 ยูโรถึง 14.90 ยูโร (เพิ่มขึ้น 6.1% จากปี 2022) ยอดขายเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ภายในและภายนอกเต็นท์ เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2022
ค่าก่อสร้างและรื้อถอนเต็นท์เบียร์ขนาดใหญ่อยู่ที่เกือบ 1-2 ล้านยูโร และค่าใช้จ่ายสำหรับวงดนตรีทั้งหมด คิดเป็น 200,000 ยูโร จำนวน 43% ของผู้เข้าร่วม มีอายุต่ำกว่า 30 ปี แผงขายของขนาดเล็ก บาร์ ร้านอาหาร และเครื่องเล่นต่างๆ มีรายได้รวมกันประมาณ 140 ล้านยูโร กว่า 1,100 ร้านค้าส่งใบสมัครขอเข้าร่วมงานเทศกาลนี้ แต่มีเพียง 550 ร้านค้าเท่านั้นที่ได้เข้าร่วม ในขณะเดียวกัน ผู้จัดงานได้รับกำไรจากค่าเช่าจากเต็นท์ต่างๆ คิดเป็น 7.8% จากค่าเช่าเต็นท์ต่อปี แม้ว่าจะรวมค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยที่สูงถึง 400,000 ยูโรแล้วก็ตาม
ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบที่จะนำประสบการณ์ที่น่าจดจำจากเทศกาลกลับบ้าน ซึ่งของที่ระลึกยอดนิยม ได้แก่ ชุด Lederhosen แบบดั้งเดิม ชุด Dirndl เสื้อยืด และแก้วเบียร์โบราณ มีมูลค่ากว่า 160 ล้านยูโร
"แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นสูง แต่ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของเทศกาล Oktoberfest ต่อเมืองมิวนิกและประเทศก็ยังคงคุ้มค่า อีกทั้งยังส่งเสริมบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมและประเพณีอีกด้วย"
Reference:
https://www.oktoberfest.de/en
https://www.oktoberfesttours.com/
https://beertoday.co.uk/2024/08/10/oktoberfest-beers-europe-0824/
https://oktoberfesttent.com/oktoberfest-economic-impacts/
https://www.otsnews.co.uk/economic-perspective-on-oktoberfest-financial-implications/